Saturday, May 19, 2012

ถ้าโครชอบกิน แกงเหลือง แกงเลียง แกงป่า แกงส้ม ( ของดี...ราคาถูก) ได้เฮกันเพราะสรุปจากงานวิจัย 7,000 ชิ้น พบว่า แกงเหลืองซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวภาคใต้ตั้งแต่ปู่ย่าตายาย สามารถทำให้เซลล์มะเร็งตายแบบธรรมชาติเพิ่มขึ้นอีก 15 เท่า!!!

โรคภัยที่คร่าชีวิตประชากรทั่วโลกมาเป็นอันดับหนึ่งนั้นคือโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็งตามมาอยู่อันดับสอง หลายสิบปีมาแล้วที่วงการแพทย์ทั่วโลกพยายามหาสาเหตุของโรคมะเร็งแต่ละอวัยวะเพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไข เพื่อสรุปให้ได้ข้อชัดเจนเสียทีว่าการบริโภคหรือระบบโภชนาการของมนุษย์โลกเป็นสาเหตุของมะเร็งแต่ละชนิดได้แค่ไหน ล่าสุดหน่วยงาน เวิลด์ แคนเซอร์ รีเสิร์ช ฟัน ( World Cancer Research Fund) ร่วมกับ อเมริกัน อินสติติว ฟอร์ แคนเซอร์ รีเสิร์ช ( American Institue for Cancer Research) ได้ตัดสินและสรุปงานวิจัยกว่า 7,000 เรื่องที่ศึกษาวิจัยความสัมพันธ์ของอาหาร การออกกำลังกาย ภาวะน้ำหนักเกิน และความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง โดยผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก ชนิพรรณ บุตรยี่ นักวิชาการจากสถาบัน โภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำงานวิจัยนี้มาบรรยายในงานประชุมเรื่อง “ ความท้าทายทางพิษวิทยาในศตวรรษที่ 21” ว่า งานวิจัยใช้ระยะเวลาสรุปผล 5 ปี โดยนำงานวิจัยขนาดใหญ่ที่ใช้กลุ่มตัวอย่างมากสุด ถึง 100,000 คน และบางชิ้นมีการเก็บข้อมูลนานนับ 10 ปี ใช้เงินทำวิจัยมหาศาล จึงจัดเ็นงานวิจัยที่น่าเชื่อถือและยึดเป็นข้อมูทางวิชาการได้ ถือเป็นข้อบ่งชี้ที่แน่ชัดแล้ว โดยเน้นเรื่องการกินและการออกกำลังกายเป็นหลัก แบ่งเป็น 3 ระดับ ข้อสรุปลำดับแรก เป็นข้อบ่งชี้ที่แน่นอน เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับอาหาร วิถีชีวิต การออกกำลังกาย สิ่งแวดล้อม โดยพบว่า การดื่มแอลกอฮอล์จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม ทั้งวัยหมดประจำเดือนและก่อนมีประจำเดือน มะเร็งช่องปาก คอหอย กล่องเสียง หลอดอาหาร ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (เฉพาะผู้ชาย) มีไขมันในร่างกายเกินจากค่าดัชนีมวลกายหลังจากอายุ 21 ป ีไปแล้ว เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม หลังหมดประจำเดือน มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับอ่อน มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งไต และเนื้อเยื่อบุมดลูก นอกจากระดับไขมันที่เป็นส่วนเกินแล้วยังแยกย่อยออกมาอีกว่า คนที่อ้วนลงพุง มีความเสี่ยงสูงต่อมะเร็งลำไส้และทวารหนัก สำหรับอาหารที่คลางแคลงใจกันมานานพวกเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ในงานวิจัยนี้ฟันธงออกมาอย่างแน่ชัดแล้วว่าการ บริโภคเนื้อแดง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว แกะ แพะ ในปริมาณที่สูงเกิน จะก่อมะเร็งลำไส้ มีคำแนะนำให้บริโภคเพียงสัปดาห์ละ ครึ่งกิโลกรัม ควรหันมาบริโภคเนื้อสีขาว อย่างเนื้อไก่ หมู หรือปลา รวมท ั้งเนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการปรุงแต่ง ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก แฮม เบคอน อาหารเหล่านี้ต้อง รมควัน บางครั้งต้อง ปรุงรส ใช้เคมีเพื่อให้สี รสชาติและมวลของอาหารอยู่ครบ เป็นอาหาร ที่กินแล้วก่อมะเร็งเช่นกัน ที่น่าตกใจพบว่าการ บริโภคเบต้าแคโรทีน ในรูปแบบอาหารเสริม จะเร่งให้เกิดมะเร็ง แต่ เบต้าแคโรทีนจะให้ผลต่อร่างกายสูงสุดเมื่อ บริโภคผักผลไม้สด ๆ ที่มีสารเหล่านี้ ประเภทผลไม้สีเหลือง เช่น มะละกอ มะม่วง แครอท ขณะเดียวกันเมื่อมนุษย์ขึ้นสู่วัยหนุ่มสาว ออกกำลังกายแบบแอโรบิก ที่ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดอย่างสม่ำเสมอวันละ 30 นาที จนเข้ าสู่วัยผู้สูงอายุ จะช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งเต้านม (โดยเฉพาะหญิงวัยหมดประจำเดือน) และมะเร็ งเนื้อเยื่อบุมดลูก นอกจากนี้ผลวิจัยเป็นที่แน่นอนแล้วว่า แม่ควรให้นมลูกและเด็กทารกควรที่จะได้รับน้ำนมแม่ สามารถ ลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมทั้งก่อนและหลังหมดประจำเดือน ทั้งนี้ควรให้นมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกคลอดจนถึง 6 เดือนโดยไม่มีการให้อาหาร หรือเครื่องดื่มใด ๆ เลย รวมทั้งน้ำด้วย ต่อมาข้อสรุปลำดับที่ 2 เรียกว่าป็นที่แน่นอนบ่งชัดเจน หากเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ในข้อนี้ 80 เปอร์เซ็นต์ ขณ ะที่ในข้อแรกเชื่อได้ 90 เปอร์ เซ็นต์ ในข้อนี้เน้นหนักด้านอาหาร พบว่า การบริโภคผักใบ ลดความเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งช่องปากคอหอย กล่องเสียง หลอดอาหาร ผักกลุ่มหอมป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร การบริโภคผลไม้ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งปอด ช่องปาก คอหอย กล่องเสียง มะเร็งหลอดอาหาร ลำดับที่ 3 ลดหลั่นเป็นเปอร์เซ็นต์ลงมาภายใต้เงื่อนไขเดียวกันคือความสัมพันธ์ของอาหาร วิถีชีวิต ในข้อนี้เรียกว่ามีความเป็นไปได้พบว่าการบริโภคอาหารที่มีไลโคปีน ซึ่งมีมากในมะเขือเทศ ลดความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก นักวิชาการคนเดิมจากสถาบันโภชนาการ ม.มหดิล บอกอีกว่า แม้สารไลโคปีนจะมีมากในมะเขือเทศ แต่ถ้าไม่ทำให้มะเขือป่นละเอียด บริโภคไปร่างกายก็ไม่ได้รับสารไลโคปีนอยู่ดี ดังนั้น การบริโภคมะเขือเทศสด แบบชิ้น ๆ กับการบริโภคซอสมะเขื อเทศอย่างหลังได้รับ ไลโคปีนมากกว่า นอกจากในงานวิจัยเรื่องการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อป้องกันมะเร็ง นักวิชาการทั่วโลกแนะนำว่าไม่ควรบริโภคผลิต ภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อป้องกันมะเร็ง เว้นแต่เจ็บป่วยหรือมีภาวะขาดสารอาหารบางอย่าง ปัจจุบันพฤติกรรมการกินอาหารของคนไทยเปลี่ยนไปโดยเฉพาะกลุ่มเด็กและคนวัยหนุ่มสาวบริโภคเนื้อสัตว์มากขึ้น ที่เห็นได้ชัดจากวัฒน ธรรมการกินอาหารบุฟเฟ่ต์ ร้านเนื้อย่างหมูกระทะต่าง ๆ สอดคล้องกับงานวิจัยนี้ ข้อแนะนำของการกินเพื่อต้านมะเร็งในแบบไทย ซึ่งแม้งานวิจัยยังไม่ได้ถูกเลือกจากนักวิชาการ เพราะเป็นงานวิจัยขนาดเล็ก ตามอัตภาพของทุนที่มี แต่น่าชื่อถือและนำไปใช้ได้ ในงานประชุมดังกล่าวข้างต้น ดร.สมศรี เจริญเกียรติกุล นักวิชาการจากสถาบันเดียวกัน ได้เผยแพร่ผลการศึกษาเรื่อง “ ศักยภาพต้านมะเร็ งของตำรับอาหารไทย ” ดร.สมศรี กล่าวว่า ได้ศึกษาเรื่องนำสมุนไพรต่างชนิดมาทำเป็นน้ำพริกแกงต่าง ๆ ได้ทดลองสารสกัดของน้ำพริกแกง 4 ชนิด ได้แก่ - น้ำพริกแกงป่า - แกงเลียง - แกงส้ม - แกงเหลือง และ - น้ำต้มยำ นำมาเลี้ยงเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว พบว่า น้ำแกงป่า น้ำแกงเลียง และน้ำแกงส้มมีศักยภาพให้เซลล์มะเร็งตายแบบธรรมชาติ ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์อื่นในร่างกาย ได้มากถึง 45 เปอร์เซ็นต์ ขณะ ที่ แกงเหลือทำให้เซลล์มะเร็งตายแบบธรรมชาติเพิ่มขึ้นอีก 15 เท่า เมื่อเทียบกัน ดีกว่าการใช้ยาถึง 2 เท่า สมุนไพรสำคัญในเครื่องแกงน่าจะมาจากกระเทียมและพริกรวมทั้งสมุนไพรอื่น ๆ จากงานวิจัยนี้สรุปได้ว่าการบริโภค อาหารที่เป็นสำรับแบบไทย อาทิ แกงเลียงกุ้งสด ห่อหมกใบยอ ไก่ผัดเม็ดมะม่วง ข้าวสวย หรือ สำรับ ข้าวเหนียว ส้มตำใส่ แครอท ไก่ทอดสมุนไพร ต้มยำ จะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็ง สอดรับกับงานวิจัยระดับโลกที่ว่าอาหารการกินเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนห่างไกลมะเร็งได้อยู่.

Sunday, May 6, 2012

พนักงานใหม่ ต้องทำตัวอย่างไร

เมื่อมีพนักงานใหม่เข้ามาทำงาน แน่นอนว่าจะต้องถูกจับตามองในช่วง 3 เดือนแรก คุณในฐานะพนักงานใหม่อาจรู้สึกตื่นเต้นกับการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมขององค์กร รวมทั้งการแสดงความสามารถให้เป็นที่ยอมรับของหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน และนายจ้าง อย่างไรก็ดี ความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของพนักงานใหม่มักพบอยู่ 2 ประการ ประการแรก คือ พนักงานใหม่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมขององค์กรได้ อีกประการหนึ่งคือ พนักงานใหม่ไม่ค่อยถามในสิ่งที่เขาไม่รู้ ซึ่งองค์กรมักจะคาดหวังพนักงานที่กล้าคิดกล้าถามมากกว่าพนักงานที่นิ่งเฉย ไม่แสดงความกระตือรือร้น หากคุณกำลังเปลี่ยนงาน หรือกำลังปรับตัวเข้ากับตำแหน่งใหม่ หรือแม้แต่เพิ่งเริ่มทำงานเป็นครั้งแรก นี่เป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยให้คุณปรับตัว และสร้างความประทับใจให้กับเพื่อนร่วมงานที่ทำงานร่วมกับคุณ เคารพในวัฒนธรรมองค์กร การแต่งกายตามสบายเกินไป หรือการไปถึงที่ทำงานสาย เป็นสิ่งที่แสดงถึงความไม่เคารพ ไม่ให้เกียรติองค์กร ซึ่งเป็นสิ่งที่พนักงานใหม่ไม่ควรกระทำ หากคุณต้องการประสบความสำเร็จ ให้สังเกตจากผู้ที่ประสบความสำเร็จว่าเขาวางตัว และปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไร หากมีโอกาสเรียนรู้จากผู้สอนงานคุณ ซึ่งแน่นอนเขาย่อมอยู่ในองค์กรมาเป็นเวลานาน คุณควรเรียนรู้กฎขององค์กร รวมถึง ธรรมเนียมปฏิบัติ ทัศนคติ ค่านิยมขององค์กร เพื่อที่คุณจะสามารถปรับตัวเข้ากับองค์กรใหม่ได้โดยเร็ว เต็มใจเรียนรู้ คุณอาจต้องพบกันกระบวนการทำงานที่ไม่คุ้นเคยในช่วงหนึ่งเดือนแรกของการทำงาน แต่คุณยังไม่ควรพยายามชักจูงเพื่อนร่วมงานให้คิดในแบบที่คุณคิด แม้ว่าคุณจะคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ดีกว่า จงคุยกับเพื่อนร่วมงานเพื่อทำความเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังของกระบวนการและการดำเนินงานของพวกเขา และพยายามที่จะเรียนรู้ ให้พวกเขาเริ่มมีความเชื่อใจและเคารพในตัวคุณเสียก่อน จากนั้นคุณค่อยให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงการดำเนินงานของพวกคุณให้ดีขึ้น ทำความเข้าใจในหน้าที่ความรับผิดชอบของคุณ ในช่วง 2-3 วันแรกคุณควรหาโอกาสคุยกับผู้จัดการของคุณถึงหน้าที่ความรับผิดชอบของคุณ ตำแหน่งคุณมีบทบาทอย่างไรต่อภาพรวมขององค์กร โดยคุณอาจตั้งคำถามดังต่อไปนี้ •อะไรคือเรื่องสำคัญและเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการก่อน •คุณควรรายงานความคืบหน้าในโครงการที่คุณรับผิดชอบในรูปแบบใด และบ่อยแค่ไหน •วิธีการในการประเมินสมรรถนะในการทำงานเป็นอย่างไร การทำความเข้าใจที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้ตัวเองว่าเมื่อไรที่คุณต้องการคำแนะนำ อีกปัจจัยหนึ่งสู่ความสำเร็จในบทบาทใหม่ของคุณก็คือความเต็มใจที่จะยอมรับเมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือ หากคุณยังลังเลที่จะขอความช่วยเหลือคุณมักจะทำผิด หากคุณยอมรับว่าคุณไม่มีความชำนาญในสิ่งนั้น ย่อมดีกว่าการส่งงานที่ไม่ตรงตามความคาดหวัง สังเกตสไตล์ในการสื่อสาร สังเกตวิธีการที่ผูจัดการ เพื่อนรวมงาน หรือพนักงานในแผนกอื่น ๆ แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ว่าคนส่วนใหญ่ชอบที่จะสื่อสารกันอย่างไร สื่อสารกันทางอีเมล การโทรศัพ์ หรือคุยกันต่อหน้า หากหัวหน้างานของคุณคาดหวังให้คุณส่งข้อมูลรายละเอียดสำคัญ แต่คุณกลับส่งอีเมลแบบไม่เป็นทางการไปให้โดยไม่ตั้งใจ อาจสร้างความไม่ประทับใจให้แก่หัวหน้างาน ดังนั้นไม่ควรพลาดที่จะสังเกตสไตล์ของพวกเขาก่อนล่วงหน้า ให้เวลากับการเข้าสังคม เมื่อเริ่มต้นตำแหน่งใหม่ คนทำงานมืออาชีพให้ความสำคัญกับการทำงานควบคู่ไปก้บการทำความรู้จักเพื่อนร่วมงาน คุณต้องแสดงให้ทุกคนเห็นว่า คุณทุ่มเทให้กับการทำงาน แต่ก็ยังต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานของคุณและหัวหน้าด้วย คุณจะพบว่าเพื่อนร่วมงานของคุณสามารถพันธมิตรที่แข็งแกร่งของคุณและมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายในการทำงานได้ง่ายขึ้น ทำงานให้มากขึ้น คุณจะกลายเป็นทรัพยากรที่ล้ำค่าของนายจ้างใหม่ได้ด้วยการอาสาสมัครทำงานใหม่ ๆ แม้ว่าจะไม่ใช่งานในหน้าที่ของคุณก็ตาม สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถเรียนรู้งานที่หลากหลาย ทั้งยังแสดงให้เห็นความตั้งใจของคุณเพื่อช่วยผู้อื่นในองค์กรด้วย ขอความคิดเห็น ในช่วงการทดลองงาน 3 เดือนนั้น คุณควรมีการขอความคิดเห็นเกี่ยวกับ การทำงานของคุณจากนายจ้างเป็นระยะ เมื่อผ่านไปหนึ่งเดือนแรก คุณอาจขอนัดหัวหน้างานของคุณ เพื่อหารือเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการทำงานของคุณในช่วงที่ผ่านมา เพื่อทราบว่าเขาพึงพอใจกับคุณหรือไม่ มีตรงไหนที่ต้องการให้ปรับปรุงบ้าง ในอีก 2 เดือนข้างหน้าคุณจะได้พัฒนาตนเองให้ดีขึ้นตามที่นายจ้างคาดหวัง การเป็นพนักงานใหม่ให้ประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มต้นให้ดี เพราะก้าวแรกที่มั่นคง ย่อมส่งผลต่อก้าวต่อ ๆ ไป ดังนั้น หากพนักงานใหม่ตั้งใจเรียนรู้และสามารถปรับตัวเข้ากับองค์กรได้อย่างรวดเร็ว ก็จะสามารถทำงานต่อไปได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ Post on 24-Jun-10 โดย JobsDB

Friday, May 4, 2012

คีย์เวิร์ดทรงพลังในการเขียนเรซูเม่

วันหนึ่ง ๆ HR บริษัทชั้นนำได้รับใบสมัครงานนับร้อยนับพันฉบับ พวกเขาจึงไม่มีเวลามากนักที่จะ พิจารณาเรซูเม่ของผู้สมัครงานอย่างละเอียด ผู้สมัครงานจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำเรซูเม่ให้โดดเด่น จับความสนใจ HR ได้แม้เพียงแค่กวาดสายตาอย่างรวดเร็ว โดยการใช้คีย์เวิร์ดที่ทรงพลัง พร้อมกับตัวเลข หรือข้อมูลที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้ HR เห็นภาพได้ง่าย และเกิดความสนใจอยากรู้จักคุณให้มากขึ้น วันนี้ JobsDB มีคีย์เวิร์ดทรงพลังมาแนะนำผู้หางานให้ได้เลือกใช้ ดังต่อไปนี้ •Achieved 100% of marketing targets in 9 months คุณบรรลุเป้าหมายทางการตลาด 100% ภายใน 9 เดือน •Boosted revenues from 40% to 80% คุณกระตุ้นรายได้ให้เพิ่มขึ้นจาก 40% ถึง 80% •Built amount of members up to 80% คุณเพิ่มจำนวนสมาชิกได้มากถึง 80% •Created a high performance คุณได้สร้างผลการทำงานระดับดีเยี่ยม •Delivered 40% sales increase in four years คุณทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น 40% ภายในเวลา 4 ปีเท่านั้น •Drove 60% increasing in… คุณขับเคลื่อนบางสิ่งบางอย่างให้เติบโตขึ้น 60% •Established reputation of providing excellent customer service คุณสร้างชื่อเสียงในด้านการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม •Initiated a new campaign to encourage repeat orders for 70% from customers คุณเป็นผู้ริเริ่มแคมเปญกระตุ้นการซื้อซ้ำของลูกค้าได้มากถึง 70% •Launched new products with 250% sales growth คุณได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มการเติบโตของยอดขายได้ถึง 250% •Led company to become a successful enterprise คุณนำบริษัทไปสู่การเป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จ •Propelled 150% increasing in… การทำงานของคุณได้ขับเคลื่อนบางสิ่งให้รุดหน้าอย่างรวดเร็วถึง 150% •Spearheaded development of new strategic plan that saves cost by 45% คุณเป็นหัวหอกในการเริ่มต้นพัฒนาแผนกลยุทธ์ใหม่ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 45 •Won a new designer campaign... ผลงานของคุณได้รับรางวัลจากโครงการประกวดนักออกแบบหน้าใหม่ Post on 26-Jan-12 โดย JobsDB

4 เคล็ดลับหางานนักศึกษาจบใหม่

Post on 24-Apr-12 โดย JobsDB เมื่อนักศึกษาจบใหม่เริ่มต้นหางานครั้งแรกในชีวิต คุณจะพบว่าเกรดเฉลี่ยใน Transcript ไม่ใช่คำตอบ สุดท้ายที่จะทำให้คุณได้งาน ผลการเรียนเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาเท่านั้น คุณยังต้องมีคุณสมบัติ อื่น ๆ ประกอบด้วย วันนี้ JobsDB มีปัจจัยอื่น ๆ ที่ช่วยเด็กจบใหม่ให้ได้งานไวมาฝากเพิ่มเติมค่ะ 1.ประสบการณ์การฝึกงาน คนที่มีประสบการณ์ในการทำงานย่อมได้เปรียบกว่าคนที่ไม่มีประสบการณ์ แม้จะเป็นเพียง ประสบการณ์จากการฝึกงาน การทำงาน Part-time หรือประสบการณ์จากการทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย ก็สามารถนำ มาใช้เป็นพื้นฐานในการทำงานได้ อย่างน้อยคุณก็ได้เรียนรู้ในเรื่องความรับผิดชอบ การปรับตัวเพื่อทำงานร่วมกับผู้อื่น การเปิดรับความคิดเห็นของผู้อื่น เป็นต้น ในขณะที่นักศึกษาจบใหม่มักกังวลว่าตนเองเพิ่งเรียนจบ ยังไม่มีประสบการณ์ ในการทำงานจะหางานได้ไหม ดังนั้น การฝึกงานจึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้คุณได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการ ทำงาน ไม่ว่าคณะของคุณจะบังคับหรือไม่บังคับให้ฝึกงานก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่า บ่อยครั้งที่นักศึกษาฝึกงาน ได้ทำงานต่อกับบริษัทที่ฝึกงานเมื่อเรียนจบทันที คุณก็อาจเป็นหนึ่งในนั้น 2.ตรวจทานเรซูเม่และจดหมายสมัครงานก่อนส่ง แม้เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่แสดงถึงความรอบคอบ และเอาใจใส่ต่องานที่ทำ หากคุณปล่อยให้ HR พบเรซูเม่ที่พิมพ์ผิด สะกดผิดทั้งที่คุณมีเวลาสร้างสรรค์เรซูเม่ อย่างสุดฝีมือแล้วล่ะก็ HR ย่อมเข้าใจว่า หากรับคุณเข้ามาทำงาน คุณก็จะทำงานอย่างไม่รอบคอบ ตก ๆ หล่น ๆ เช่นกัน แม้คุณจะเป็นผู้ หางานมือใหม่ แต่ก็ควรแสดงถึงความเป็นมืออาชีพตั้งแต่เริ่มต้น สมัครงาน เพราะฉะนั้น ควรให้ความสำคัญกับเรซูเม่ของคุณให้มาก เพราะมันคือสิ่งสำคัญที่สุดที่จะพาคุณผ่านด่านแรกเข้าสู่ด่านต่อ ๆ ไป 3.ดึงจุดเด่นออกมา คุณมีความชอบ ความสนใจในด้านใด ควรเรียนรู้และ ฝึกฝนให้ชำนาญ โดยเฉพาะทักษะที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงาน คุณอาจหาหนังสือมาอ่านและทดลองทำด้วยตนเอง หรือลงเรียนคอร์ส ที่สนใจเพิ่มเติม เช่น เรียนดีไซน์ เรียนถ่ายภาพ เรียนเขียนโปรแกรม แน่นอนว่าสิ่งที่คุณร่ำเรียนและฝึกฝนจะช่วยให้คุณมีความโดดเด่นเมื่อ คุณไปสมัครงาน และมีโอกาสได้ทำงานในฝันสมใจ 4.คิดบวกเสมอ ทัศนคติเป็นสิ่งสำคัญในการพิจารณาผู้สมัครงานไม่น้อยไปกว่าความสามารถเลย สิ่งที่คุณคิดจะแสดงออก ผ่านการกระทำและคำพูดของคุณ เมื่อ HR ได้พูดคุยกับคุณหรือให้คุณทำแบบทดสอบบุคลิกภาพ เขาก็จะรู้ได้ว่าคุณ เป็นคนอย่างไร การคิดบวกจะนำพาคุณไปสู่ชีวิตสว่างไสว ไม่ยอมอับจนต่อปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ในขณะที่การคิดลบ จะพาคุณติดอยู่กับสิ่งแย่ ๆ ในชีวิต หากคุณเป็นนายจ้างคุณจะรับคนแบบไหนเข้าทำงาน แน่นอนว่า คนที่คิดบวกย่อมเป็น ผู้ถูกเลือก ลองปรับเปลี่ยนทัศนคติด้วยการมองสิ่งต่าง ๆ ในมุมบวกเสมอ ไม่ใช่แค่จะเพิ่มโอกาสได้งาน แต่จะเพิ่มความสุข ในชีวิตของคุณเองด้วย

Thursday, March 8, 2012

อ่าวมาหยา จ.กระบี่ ทะเลไทยสวยติดอันดับโลก

อยากหลับตาแล้วหายตัวหายใจไปอยู่ทะเลไหนซักแห่ง ไหนๆ ก็ฝันแล้ว ขอฝันถึงทะเลไทยที่สวยติดอันดับในใจคนไทยและต่างชาติ อย่าง “อ่าวมาหยา” สววรค์ใต้ฟ้า วิมานบนดิน ที่ฝรั่งเค้าอินกันนักหนา ถึงเวลาที่เจ้าถิ่นอย่างเราๆ ต้องหาโอกาสไปเยือนซักครั้ง


อ่าวมาหยา ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเล เกาะขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ อ่าวมาหยา เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ จากการพังทลายของหน้าผาที่โอบล้อม แหว่งเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กรูปพระจันทร์เสี้ยวที่โอบล้อมด้วยเขาหินปูน


เกาะหินปูนแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างชายฝั่งหลายสิบกิโลเมตร ด้วยความที่น้ำทะเลใสช่วยให้แสงส่องถึงใต้ผิวน้ำในระดับที่เหมาะสม ตัวอ่อนของปะการังเกาะตัวกันบนหินที่ทับถมอยู่กลางอ่าว เมื่อเวลาผ่านพ้นไป แนวปะการังขยายขนาดปกคลุมทั่วอ่าวมาหยา แต่ปัจจุบันแนวปะการังบริเวณด้านหน้าชายหาดอ่าวมาหยาได้กลายเป็นแนวปะการังเสื่อมโทรมไปหมดแล้วซึ่งเป็นผลพวงบางส่วนจากการทิ้งสมอเรือและคลื่นยักษ์สึนามิ แต่สภาพภูมิทัศน์ต่างๆ บริเวณชายหาดก็ได้รับการฟื้นฟูพัฒนา และปรับปรุงจนสวยงามมากขึ้น

อ่าวมาหยา นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์อีกจุดหนึ่งของทะเลกระบี่ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาพักผ่อนทิ้งตัวทิ้งใจลงบนหาดทรายขาวละเอียดที่เค้าว่ากันว่าละมุนเหมือนผงแป้ง นอนแช่น้ำทะเลใสสีเขียวมรกต สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแวดล้อมซึ่งปกคลุมไปด้วยพันธุ์ไม้ชายทะเล จึงไม่แปลกใจเลยที่ต่างชาติจะยกให้ “อ่าวมาหยา” เป็นทะเลไทยที่สวยติดอันดับโลก


การเดินทางไปอ่าวมาหยา**ให้เช็คจากการเดินทางไปเกาะพีพี

1. ท่องเที่ยวแบบเช้าเย็นกลับ
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะพีพีแบบไปเช้าเย็นกลับจากบริษัททัวร์ที่ให้บริการได้ทั้ง จากจังหวัด กระบี่ท่าเรืออ่าวนาง และภูเก็ต บริเวณอ่าวฉลอง โดยเรือเร็ว จากบริษัททัวร์ที่คอยให้บริการมากมายซึ่งมี โปรแกรมทัวร์ใ้ห้เลือกหลากหลายแล้วแต่ความชอบ โปรแกรมท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม คือ เริ่มจาก เกาะพีีพีเล ได้แก่ อ่าวมาหยา อ่าวปิเละ อ่าวโละซะมะ และไปแวะรับประทานอาหารกลางวันที่เกาะพีพีดอน หลักจากนั้นก็เริ่ม ท่องเที่ยวไปยังจุดต่างๆ ก็เกาะพี่พีดอน ได้แก่ อ่าวต้นไทร อ่าวโละดาลัมและจุดชมวิวเกาะพีพีดอน

2. ท่องเที่ยวแบบค้างคืน
จากท่าเรือเจ้าฟ้าในตัวเมืองกระบี่ มีเรือโดยสารออกจากกระบี่ไปเกาะพีพี วันละ2 เที่ยว เวลา 10.00 น. และ 14.30 น. และจากเกาะพีพีกลับกระบี่ เรือออกเวลา 09.00 น. และ 13.00 น. ค่าโดยสารคนละ 150 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เมื่อมาถึงเกาะพีพี นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือหางยาวไปท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ของเกาะพีพี บริเวณอ่าวต้นไทร เกาะพีพีดอน มีเรือหางยาวให้เช่าไปเที่ยวตามชายหาดต่างรวมถึงเกาะพีพีเลด้วย

Tuesday, February 28, 2012

Elephant behavior and conservation issues

Elephant behavior and conservation issues

สถานี หัวลำโพง สถานีรถไฟคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย

สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือเรียกกันทั่วไปว่า หัวลำโพง เริ่มก่อสร้างในปลายสมัยรัชกาลที่ 5 คือในปี พ.ศ.2453 การก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดใช้บริการอย่างเป็นทางการโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯ ทรงกระทำพิธีกดปุ่มสัญญญาณไฟฟ้าให้รถไฟขบวนแรกเดินเข้าสู่สถานีกรุงเทพ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2459

สถานีรถไฟกรุงเทพ สร้างอยู่ในพื้นที่ 120 ไร่เศษ อยู่ห่างจากสถานีเดิมไปทางทิศใต้ ประมาณ 500 เมตร ตั้งอยู่ในท้องที่ แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ มีอาณาเขต
- ทิศเหนือ จรดคลองมหานาค
- ทิศใต้ จรดถนนพระราม 4
- ทิศตะวันออก จรดถนนรองเมือง
- ทิศใต้ จรดคลองผดุงกรุงเกษม

สำหรับที่ตั้งของสถานีกรุงเทพเดิมซึ่งอยู่บริเวณที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพระราชพิธีเริ่มการก่อสร้าง และเปิดเดินรถไฟหลวงนั้น หลังจากได้ก่อสร้างสถานีกรุงเทพหลังปัจจุบันแล้วจึงรื้อถอนออกไป ต่อมาผู้ปฏิบัติงานรถไฟได้ร่วมกัน สละทรัพย์สร้างเป็นอนุสรณ์ปฐมฤกษ์รถไฟหลวงขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2533 เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นอนุสรณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์แก่อนุชนรุ่นหลังสืบต่อไป

สถานีกรุงเทพ มีแบบก่อสร้างเป็นรูปโดมสไตล์อิตาเลียนผสมผสานกับศิลปะยุคเรอเนสซองมีลักษณะคล้ายกับรถไฟเมืองแฟรงค์เฟิร์ตในประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันอีกทั้งวัสดุในการก่อสร้างก็เป็นวัสดุสำเร็จรูปจากเยอรมันนี เช่นกันลวดลายต่างๆที่ประดับไว้เป็นศิลปะที่มีความวิจิตรสวยงามมาก บันไดและเสาอาคารบริเวณทางขึ้นที่ทำการกองโดยสาร หรือโรงแรมราชธานีเดิมเป็นหินอ่อน โดยเฉพาะเพดานเป็นไม้สักสลักลายนูน ซึ่งหาดูได้ยาก จุดเด่นของสถานีกรุงเทพอีกอย่างหนึ่งคือ กระจกสีที่ช่องระบายอากาศ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งติดตั้งไว้อย่างผสมผสานกลมกลืนกับตัวอาคารเช่นเดียวกับนาฬิกาบอกเวลาที่มีอายุเก่าแก่เท่า ๆ กับตัวอาคารสถานี โดยติดตั้งไว้ที่กึ่งกลางยอดโดมสถานี เป็นนาฬิกาที่สั่งทำพิเศษเฉพาะไม่ระบุชื่อบริษัทผู้ผลิตแสดงให้เห็นเหมือนนาฬิกาอื่น ๆ นาฬิกาเรือนนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 160 เซนติเมตร ควบคุมด้วยไฟฟ้าระบบดี.ซี.จากห้องชุมสายเป็นเครื่องบอกเวลาแก่ผู้สัญจรผ่านไป-มา และผู้ใช้บริการที่สถานีกรุงเทพจนถึงปัจจุบันนี้

บริเวณด้านหน้าสถานีกรุงเทพมีสวนหย่อมและน้ำพุสำหรับประชาชน โดยข้าราชการรถไฟได้รวบรวมทุนทรัพย์เป็นมูลค่า 9,150.-บาท จัดสร้างอนุสาวรีย์น้อมเกล้าฯ อุทิศส่วนกุศลถวายแด่พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงอนุสาวรีย์ที่ว่านี้เป็นรูปมีพระบรมฉายาลักษณ์ด้านข้างแบบลายนูนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประดิษฐานอยู่สถานีกรุงเทพใช้เป็นที่รับ-ส่ง ทั้งผู้โดยสารและสินค้า โดยถ้าเรายืนอยู่บริเวณด้านหน้าสถานีและหันหน้าเข้าสู่สถานีหลังคารูปครึ่งวงกลมจะเป็นส่วนให้บริการแก่ผู้โดยสาร พื้นที่ด้านขวามือเป็นที่ตั้งของโรงแรมราชธานี ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นที่ทำการกองโดยสาร และด้านซ้ายมือจะเป็นที่ทำการรับ-ส่งสินค้า ซึ่งปัจจุบันเป็นจุดจอดรถแท๊กซี่ สินค้านี้โดยในส่วนพื้นที่บริการด้านสินค้านี้ การรถไฟฯ ได้พิจารณาให้ย้ายไปอยู่ที่ย่านสินค้าพหลโยธินตั้งแต่ปี พ.ศ.2503 เนื่องจากมีการขยายตัวทั้งด้านการโดยสาร สินค้า ประกอบกับการจราจรบริเวณหน้าสถานีเริ่มมีปัญหา อีกทั้งเพื่อปรับปรุงย่านสถานีกรุงเทพเสียใหม่ให้สามารถรองรับการโดยสารที่มีความหนาแน่นเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี

สถานีกรุงเทพได้รับการปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับการสภาพการโดยสารตลอดมา เป็นต้นว่าการขยายความยาวของชานชาลาหรือก่อสร้างชานชาลาและหลังคาคลุมชานชาลาเพิ่มเติม ปรับปรุงห้องจำหน่ายตั๋ว โดยแยกเป็นห้องจำหน่ายตั๋วห้องจำหน่ายตั๋วล่วงหน้า จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆแก่ผู้โดยสารและผู้ที่มารับส่ง เช่น ร้านอาหาร/เครื่องดื่ม ร้านค้าเบ็ดเตล็ด ร้านขายหนังสือพิมพ์ ที่ทำการไปรษณีย์ เป็นต้น นอกจากนี้แล้วสถานีกรุงเทพยังเป็นสถานที่รณรงค์ต่อต้านภัยจาก การสูบบุหรี่โดยจัดให้เป็นเขตปลอดบุหรี่เพื่อสุขภาพของผู้โดยสารของทุกคนส่วนรวมในปี 2541 สถานีกรุงเทพได้รับการปรับปรุง ผู้โดยสารหรือผู้เข้ามาใช้บริการอื่นๆ แบบที่เรียกว่า พลิกโฉม โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์ของรถไฟไทยให้ตอบรับกับปีอะเมซิ่งไทยแลนด์ และรองรับการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 6 – 20 ธันวาคม พ.ศ.2541 โดยการรถไฟฯได้คัดเลือกและแต่งตั้งบริษัทไทยสินเอ็กซ์เพรส จำกัดซึ่งมีประสบการณ์ในการบูรณะ และพัฒนาอาคารอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์หลายแห่งมาแล้ว ให้เป็นผู้ดำเนินการทั้งนี้มีเงื่อนไขว่าต้องอนุรักษ์และพัฒนา อาคารสถานีกรุงเทพให้อยู่ในสภาพเดิม เนื่องจากเป็นอาคารที่อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานที่มีคุณค่าแก่การอนุรักษ์

ในการปรับปรุงอาคารสถานีกรุงเทพจะประกอบด้วยการปรับปรุงพื้นที่ 2 ข้างในห้องโถงอาคารให้เป็นร้านขายอาหาร และร้านค้า โดยมีชั้นลอยเพื่อเป็นที่นั่งคอยของผู้โดยสารเป็นการเพิ่มบริการให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายในการนั่งรอและสามารถเลือกซื้อ อาหาร ตลอดจนของใช้จำเป็นอื่นๆได้ตามความต้องการโดยมีร้านค้าหลากหลาย อาทิ ร้านอาหาร, ขนม, เครื่องดื่ม ,ผลไม้ขนมปังและเบเกอรี่, ไอศกรีม, อาหารจานด่วน, อุปกรณ์การเดินทาง, หนังสือ และร้านขายยา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบริษัทที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยว,บริษัทรับจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบิน,บริการแลกเปลี่ยนเงินตรา ,ตู้ เอ.ที.เอ็ม. และห้องละหมาด เป็นต้น สำหรับห้องจำหน่ายตั๋วประจำวันก็ได้จัดสร้างขึ้นใหม่   โดยหันหน้ารับผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในสถานีบนชั้น 2 ห้อง ขายตั๋วทำเป็นพื้นที่ทำงานของพนักงาน   เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและสะดวกในการปฏิบัติงาน ส่วนที่เป็นห้องโถงจะคงสภาพเดิมไว้เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารจำนวนมาก ๆ ได้ในส่วนชานชาลาได้เพิ่มเติมร้านขายของและจัดเป็นที่พักสำหรับผู้โดยสารที่มารอการเดินทางด้วย ทางด้านข้างของอาคารสถานีทิศตะวันตก หรือคลองผดุงกรุงเกษม ก่อสร้างเป็นหลังคาคลุมใหม่เป็นรูปโค้งครึ่งวงกลมครอบคลุมพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร เป็นพื้นที่สำหรับรองรับผู้โดยสารขาเข้าและขาออกให้ได้รับความสะดวกมากขึ้นกว่าเดิมการปรับปรุงเพื่อพลิกโฉมของสถานีกรุงเทพใหม่ที่กล่าวมานี้แล้วเสร็จ และจัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2541

สถานีกรุงเทพ เป็นสถานีเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง ถ้านับอายุจนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2555) ก็มีอายุถึง 96 ปีแล้ว ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการขนส่งผู้โดยสารทางรถไฟ ในแต่ละวันจะมีขบวนรถเข้า-ออก ประมาณ 200 ขบวน และมีผู้โดยสารเดินทางเข้านับหมื่นคนเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์สำคัญๆ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ เข้าพรรษา หรือตรุษจีนจะมีผู้คนหลั่งไหลมาใช้บริการที่สถานีกรุงเทพนี้นับแสนคนจนสถานที่อันกว้างขวางโอ่โถงของสถานีแห่งนี้ดูคับแคบลงไปเลยทีเดียวนอกจากความเก่าแก่แล้วยังเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญยิ่งทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และการคมนาคมขนส่งสมควรยิ่งที่จะต้องอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกของชาติและอนุชนรุ่นหลังสืบไป...

Sunday, January 15, 2012

Phang Nga

Phang Nga province is blessed with a variety of outstanding natural attractions including the stunning Phang Nga Bay, the idyllic Surin and Similan Islands, the sandy coast of Khao Lak, and
Phang Nga is a province equally renowned for its beautiful land, spectacular bay, and amazing islands; Phang Nga national parks feature magnificent scenery with immensely different attractions. Most famous is Phang Nga Bay National Park, a geological wonder filled with islets, sunken caverns, and startling rock formations rising vertically out of the sea. The bay is extremely sheltered and therefore ideal for expeditions on sea kayak that explore the many fascinating caverns and islands throughout the bay.

Phang Nga's Andaman coast offers equally stunning national parks of a different kind; the island groups of Surin and Similan are renowned for their beautiful, unspoiled beaches and spectacular underwater scenery, attracting divers from around the world. On the Phang Nga mainland, Khao Lak features a coastal park full of rare birds, exotic mammals, and scenic waterfalls, as well as many luxury and budget hotels along the spectacular coast that was devastated by the 2004 Tsunami but has since been completely rebuilt.

Not to be confused with Koh Phangan, the island in the Gulf of Thailand, Phang Nga province lies on the Andaman coast on the Thai mainland immediately north of Phuket.

Phang Nga is renowned for its spectacular beauty, particularly Phang Nga bay, which contains hundreds of island including Koh Tapu (James Bond Island), where the film The Man with the Golden Gun was shot, and Koh Yao Noi and Koh Yao Yai, which feature laid back communities that allow for cultural home stay experiences. Phang Nga is also the province that includes two groups of islands considered the most beautiful in Thailand: Mu Koh Similan and Mu Koh Surin National Marine Parks.

Along Phang Nga’s Andaman seashore lies Khao Lak, a stunning coastline of expansive beaches that bore the brunt of the 2004 Tsunami but has greatly recovered, and -- these two islands are little visited, yet well worth the effort. Although part of Phang Nga province, they are best visited from either Phuket or Krabi provinces. The big attraction in the bay is the spectacular karst scenery that is found through out the north of the bay.

Tuesday, January 3, 2012

Beaches and Islands


Visiting a Thailand beach or island is the preferred holiday for hundreds of thousands of visitors to Thailand every year. Thailand is blessed with natural beauty and its islands are amongst the most scenic and beautiful in the world. Likewise, each Thai beach, such as Karon Beach in Phuket, Chaweng Beach on Koh Samui, or picturesque Maya Bay on Koh Phi Phi, is simply stunning, and many feature powdery sand, crystal clear water, and postcard-perfect scenery.

Each Thai beach and island has its own character and identity and therefore draws a specific type of visitor. Each coastal area contains a slice of heaven suitable for a different style of traveler: The west coast of Thailand, along the Andaman Sea, features beaches that appeals to every type of traveler, including the activity-filled resort island of Phuket; the popular backpacker beaches of Koh Phi Phi, Koh Lanta, and Krabi; the family friendly, laid back, and pristine coast of Khao Lak (the launching point for trips to the spectacular Similan Islands); and the remote, undeveloped islands of the far south.

Along the Gulf coast, the resort island of Koh Samui lies nearby the natural splendor of Koh Phangan and the scuba diving paradise of Koh Tao. Closer to Bangkok are the popular resort town of Hua Hin, a favorite among Thais, and its quieter neighbor Cha Am. Finally, to the east of Thailand, the northern Gulf features Bangkok weekend getaway Koh Samet, and the up-and-coming resort island of Koh Chang, which has both upscale resorts and budget beach bungalows.

Certain Thai beaches and islands, like Koh Tarutao National Park, offer limited accommodation and facilities and draw more adventurous travelers who are looking for a more ‘back to basics’ holiday experience. Others, such as Kamala Beach in Phuket, offer world class facilities (accommodation, restaurants, nightlife, etc) to entice visitors with bigger budgets who require creature comforts. It is important to note that this diversity exists not only between the islands, but between different beaches as well. Whereas one Thai beach might offer raucous entertainment, another a few kilometers away on the same island might only draw those looking for a quiet holiday.

Phuket, Thailand’s largest island, is a perfect example of this contrast. Phuket is certainly the most developed Thai island, having been the first Thai beach resort destination. Located on the Andaman coast, Phuket contains numerous beaches, including the activity filled Patong beach, with its exciting nightlife, and the more family friendly Karon and Kata beaches. Across the island are luxurious five-star resorts and a wealth of Thai spas that serve to pamper visitors on any budget. In addition to a lush, tropical interior that features a variety of exotic wildlife, Phuket is an ideal location for day trips to nearby islands, such as Koh Phi Phi, a favorite destination for scuba divers, and Phang Nga bay, where visitors can snorkel, kayak, and visit iconic James Bond Island (Koh Tapu). Phuket is easily accessible via its international airport that connects domestically with Bangkok, Koh Samui, and Chiang Mai.

Koh Samui is the prime island attraction in the Gulf of Thailand. The most popular beach, Chaweng, features accommodation from five-star luxury resorts to affordable beach bungalows, and dining includes fine dining on international cuisine and casual beachside seafood barbeques. Samui is both family friendly and budget oriented with a host of activities, some of Thailand’s finest spas, and is conveniently located nearby some of Thailand’s finest diving off neighboring Koh Tao. Samui International Airport connects domestically to Bangkok, Krabi, Phuket, and Chiang Mai.

Krabi is a province on the mainland Andaman coast, near Phuket. In addition to popular beachside resort areas, such as Railey Beach, Krabi includes a number of spectacular islands, such as the Phi Phi Islands and Koh Lanta, off of which some of Thailand’s most popular scuba diving sites are found.